เฟซบุ๊คแจ้งเตือนผมว่าเกือบ 90 วันแล้วที่ผมไม่ได้อัพเดทข้อมูลอะไรเลยในหน้าเพจเกี่ยวกับ Hasselblad ซึ่งถ้าหมายถึงในทางการสื่อสารผมถูกตัดขาดไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์แรก หรือถ้าในเรื่องการทำธุรกิจผมก็เจ้งไปแล้วเช่นกัน 😀 เพราะคนจะเลิกสนใจ เป็นไปตามทฤษฎีที่ผมหายไปจากหน้าเพจเพื่อไปเรียนรู้เรื่องของการสื่อสารกับมนุษย์ด้วยกันผ่านโลกโซเชี่ยลนี้ แต่สำหรับผม…ไม่มีอะไรที่มันสูญเปล่า การเสียอย่างหนึ่งไปมักได้อย่างหนึ่งตอบกลับมาเสมอ… อยู่ที่สิ่งนั้นๆ จะเป็นอะไร และสำคัญกับคนๆ นั้นแค่ไหน 😀

Facebook reminded me that it’s have been almost 90 days that I haven’t updated anything on the Hasselblad page, which means communication has been cut off since the first week. Or if in the matter of doing business, I have already given up as well, because people will lose connecting and went away. In the communication theory, I had disappeared from the page and the social world. But for me…nothing is wasted. Losing one thing always gets something back… It depends on what it is and how important it is?

มาถึงเรื่องเลนส์ชั้นยอดของ Hasselblad กันบ้าง…มีใครเคยสังเกตมั๊ยครับว่าเวลาเราซื้อทุเรียนเป็นกิโลเราซื้อทั้งลูกและเราได้เปลือกมันมาด้วย..มีใครกินเปลือกทุเรียนบ้าง..? หรือถ้าเราซื้อแบบแกะแล้วทานได้เลย ราคาทุเรียนก็จะแพงขึ้นไปอีกสามเท่าตัว เราเคยถามแม่ค้าบ้างมั๊ยครับว่าทุเรียนที่แกะแล้วใส่แพ็คพร้อมทานตกกิโลละเท่าไหร่? ราคาเท่ากับที่รวมเปลือกหรือเปล่าหรือที่แพงกว่านั้นเพราะแพงค่าแกะออกจากลูก? แล้วทำไมแพงกว่าตั้ง 3 เท่า? นั่นสิ..ผมก็ไม่เคยถามเลย..!!

 

 

มีคนที่เริ่มใช้ Hasselblad และชื่นชอบถ่ายภาพคนเป็นพิเศษและถามผมว่าเลนส์ช่วงนอร์อลตัวไหนคุ้มค่ากว่ากัน (หรือเลนส์ตัวไหนถ่ายภาพคนได้ดีกว่ากัน) ผมพอมีความรู้เรื่องเลนส์ช่วงนี้ดีครับ แต่ผมไม่สะดวกออกไปทดสอบเลย แล้ววันหนึ่งเมื่อเวลาเหมาะสมคุณต้น ดุสิต เสมาเงิน Dusit Semangoen  น้องกัลยณมิตรจึงรับเป็นธุระให้ ผลทดสอบได้ตามภาพที่เห็นจากข้างล่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพของเจ้าเหมียวหรือสองสาวงามที่มีน้ำใจเป็นแบบให้คุณต้น 😀 สำหรับผมโดยส่วนตัวแล้วผมชอบ 100มม F3.5 เพราะผมใช้ Hass 500 Series อยู่แล้ว ส่วน 110มม F2 เป็นเลนส์ที่ผมอยากได้มากและผมก็มีใช้ ถ้าเป็นความคิดเห็นแบบกลางๆ สำหรับหลายๆ คน ความอยากกับความสะดวกและความจำเป็นต้องใช้ ทำให้ต้องคิดให้ดีทีเดียว เพราะ F2 110มม ใช้กับบอดี้ 200 sereis เท่านั้น ถ้าหลายคนชอบ F 2, 110มม ต้องมี Body ของ 200 series ด้วยเงินเกินครึ่งแสนสำหรับกล้องมือสองและค่าตัวเลนส์อีกไม่น้อยกว่า 7-80,000 บาท สำหรับเลนส์สภาพดีๆ ถ้าทางเลือกนี้คุ้มค่าผมคิดว่าก็ลุยได้เลยครับ ส่วนถ้าใครคิดเหมือนผมเจ้า 100มม F3.5 ก็ไม่เสียหายครับ ไม่ต้องลงทุนเพิ่มก็เป็นทางเลือกอีกทาง

A few people who are just starting out with Hasselblad and are particularly fond of photographing people, they asking me which normal lens is a better. (Or which lens is better for photographing people?) I have some good knowledge of the lenses. But I’m not convenience to going out to test at all. One day, when the right time comes, Khun Ton, Dusit Semangoen, my good friend took it. The test results can be seen in the picture below. Whether it’s a picture of a cat or two beauties who are generous, for my personally, I like the 100mm F3.5 because I’m have been using the Hasselblad 500 Series but the F 110mm F2 lens that for the 200 and 2000 camera bodies only,  So have to think twice for conveniences or necessity.

มันไม่ได้เกี่ยวกับทุเรียนที่แกะแล้วหรือซื้อเป็นกิโลแล้วเอามาแกะกินเองหรือซื้อแบบไหนแล้วคุ้มค่า อยู่ที่เราสะดวกหรือพอใจและมีความสุขกับตรงไหน? ความคุ้มค่าสำหรับผมจึงอยู่ที่ความเหมาะสมว่าเราต้องการใช้ประโยชน์จากสิ่งใด..ไม่ไช่ได้ทั้งหมด..ไม่อย่างนั้นเราก็กินคงไม่เว้นแม้แต่เปลือกของหมอนทองหรือก้านยาวเมืองนนท์เพราะกลัวว่าจะไม่คุ้ม นักธุรกิจอาจมองผลตอบแทนเป็นตัวเลข นักศิลปะอาจมองความเป็นไปได้และการสื่อความหมายผ่านภาพถ่าย คงเป็นมุมมองคนละมุมกัน 😀

 

 

 

 

 

ขอบคุณพี่ต้นมากๆ นะครับ สำหรับผลการทดสอบที่ทำไว้นานแล้ว แต่ผมเพิ่งมีโอกาสเอามาเขียนให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นข้อมูลกัน ผมจะพยายามแบ่งเวลาให้ดีและไม่หายไปนานๆ แบบนี้อีก ข้อมูลจากคนไทยก็น่าเชื่อถือ ฝรั่งก็เชื่อได้ไม่สนิทใจทุกเรื่องหรือทุกคน ฉะนั้นการมีแหล่งข้อมูลจากหลายๆ แห่งทำให้คนอยากรู้จริงๆ มีข้อมูลเทียบเคียงและใช้ในการตัดสินใจได้

ขอให้มีความสุขกับการถ่ายภาพครับ

Yut Hasselblad,

June 6, 2017